วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ครั้งที่9
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ2563


ความรู้ที่ได้รับ

วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาจับกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม แบบหลอดให้ยาวที่สุดให้ลูกบอลวิ่งช้าที่สุด
บนรางหลอด โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบ STAM 

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา (STEM Education)

สะเต็มศึกษา คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงาน  การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่เน้นเพียงการท่องจำทฤษฎีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฏเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริงควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิด  ตั้งคำถาม  แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือบูรณาการกับชีวิตประจำวันได้

การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มมีลักษณะ  5  ประการได้แก่ 

(1)เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ 

(2)ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวันและการทำอาชีพ  

(3) เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21  

(4) ท้าทายความคิดของนักเรียน  และ 

(5) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกับเนื้อหาทั้ง 4 วิชา  จุดประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา คือ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์  และเห็นว่าวิชาเหล่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน  

สะเต็มศึกษา (STEM Education) เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และ คณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน ให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ผ่านประสบการณ์ในการทำกิจกรรมการเรียนรู้แบบบโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) หรือ กิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)

หลักสูตรนี้จึงสร้างเพื่อให้ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และ ผู้สนใจใฝ่รู้ด้านสะเต็มศึกษา ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษาในโรงเรียน และสามารถพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาเพิ่มขึ้นและมีความสอดคล้องกับบริบทและอาชีพของท้องถิ่นต่อไป

การจัดการเรียนการสอนด้วยกระบวนการสอนแบบ STEM เป็นแนวทางการสอนที่กำลังถูกพูดถึงกันมากที่สุดในยุคนี้

STEM เป็นการบูรณาการ ระหว่าง วิชาวิทยาศาสตร์ (S) เทคโนโลยี (T) คณิตศาสตร์ (M) เพื่อพัฒนานวัตกรรมผ่านกระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ (E)

 โดยส่วนใหญ่จะบูรณาการทั้ง 4 วิชา ผ่านกระบวนการเรียนรู้ผ่านโครงงาน (Project-Based Learning) หรือ กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)เป็นเครื่องมือในการจัดกระบวนการเรียนของผู้เรียนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ควรคำนึงถึงลำดับขั้นการเรียนรู้ของผู้เรียนของบลูม คือ 

1)การจำ 2)ความเข้าใจ 3)การประยุกต์ใช้ 4)การวิเคราะห์ 5)การประเมินค่า 6)การสร้างสรรค์

 โดยกระบวนการจัดการเรียนการสอนทั้งหมดต้องสอดคล้องกับคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญ 3 ประการ คือ

1.ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี (Information Skill Media and Technology)

2.ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)

3.ทักษะชีวิตและการทำงาน (Life and Career Skills)

ภาพบรรยากาศภายในห้องเรียน





ประเมินตนเอง

ได้ทักษะการคิด การทำงานกลุ่มร่วมกัน การแก้ไขปัญหา 

ประเมินเพื่อน

เพื่อนๆให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ช่วยกันคิดแก้ไขปัญหา การทำงานร่วมกัน

ประเมินอาจารย์

ฝึกให้นักศึกษารู้จักคิด ออกแบบร่วมกัน ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม