ครั้งที่9วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ2563
ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาจับกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม แบบหลอดให้ยาวที่สุดให้ลูกบอลวิ่งช้าที่สุดบนรางหลอด โดยใช้รูปแบบการเรียนแบบ STAM
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา (STEM Education)
สะเต็มศึกษา คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงาน การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่เน้นเพียงการท่องจำทฤษฎีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฏเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริงควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิด ตั้งคำถาม แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือบูรณาการกับชีวิตประจำวันได้
การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มมีลักษณะ 5 ประการได้แก่
(1)เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ
(2)ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวันและการทำอาชีพ
(3) เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21
(4) ท้าทายความคิดของนักเรียน และ
(5) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกับเนื้อหาทั้ง 4 วิชา จุดประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา คือ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ และเห็นว่าวิชาเหล่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน
สะเต็มศึกษา (STEM Education) เป็นนวัตกรรมการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่บูรณาการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และ คณิตศาสตร์เข้าด้วยกัน ให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ผ่านประสบการณ์ในการทำกิจกรรมการเรียนรู้แบบบโครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning) หรือ กิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
หลักสูตรนี้จึงสร้างเพื่อให้ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และ ผู้สนใจใฝ่รู้ด้านสะเต็มศึกษา ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สะเต็มศึกษาในโรงเรียน และสามารถพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาเพิ่มขึ้นและมีความสอดคล้องกับบริบทและอาชีพของท้องถิ่นต่อไป
การจัดการเรียนการสอนด้วยกระบวนการสอนแบบ STEM เป็นแนวทางการสอนที่กำลังถูกพูดถึงกันมากที่สุดในยุคนี้
STEM เป็นการบูรณาการ ระหว่าง วิชาวิทยาศาสตร์ (S) เทคโนโลยี (T) คณิตศาสตร์ (M) เพื่อพัฒนานวัตกรรมผ่านกระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ (E)
โดยส่วนใหญ่จะบูรณาการทั้ง 4 วิชา ผ่านกระบวนการเรียนรู้ผ่านโครงงาน (Project-Based Learning) หรือ กระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)เป็นเครื่องมือในการจัดกระบวนการเรียนของผู้เรียนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ควรคำนึงถึงลำดับขั้นการเรียนรู้ของผู้เรียนของบลูม คือ
1)การจำ 2)ความเข้าใจ 3)การประยุกต์ใช้ 4)การวิเคราะห์ 5)การประเมินค่า 6)การสร้างสรรค์
โดยกระบวนการจัดการเรียนการสอนทั้งหมดต้องสอดคล้องกับคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญ 3 ประการ คือ
1.ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี (Information Skill Media and Technology)
2.ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
3.ทักษะชีวิตและการทำงาน (Life and Career Skills)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น